พอเริ่มปล่อยครัชออกตัวออกไปเราจะรู้สึกถึงพลังที่มาจากทอร์คในรอบต้นๆ แบบเดียวกับ CRR300 แต่หาไม่ได้จากNinja300 ที่มีแต่ปลาย สามารถขับขี่เกียรสูงๆที่รอบต่ำๆได้ ทำให้ควบคุมรถในรถสภาวะรถติดหรือขี่ช้าๆได้ดีมากๆ พอบิดคันเร่งออกไป กำลังของรอขึ้นแบบสมูทหรือแทบจะเป็นแฟลทกันทีเดียว ไม่ต้องใช้รอบเยอะในการเปลี่ยนเกียร เรียกกำลังมาได้ตลอดเวลา ต่างจากNinja300ชัดเจน
สมรรถนะการเข้าโค้ง ผมบอกเลยว่า ตัวนี้มัน Race Circuits ชัดๆ ผิดกับNinja300จะรู้สึกว่าเป็นTouring Bike ถ้าจะยกตัวอย่าง เหมือนกับ KR กับ TZM เปี๊ยบ R3จะใช้การจัดท่าเข้าโค้งด้วยการถ่ายเทน้ำหนัก ส่วนNinja จะเลี้ยวด้วยแฮนด์ที่เบา แน่นอนหละ ถ้าเข้าโค้งแรงๆ นินจาเสียเปรียบทันที
ต่อมา พอเราขี่แล้วเชนเกียรก่อนเข้าโค้ง R3 เชนได้ปกติ แต่ Ninja เอ็นจินเบรคหาย เชนอีกเกียรก็ยังไม่อยู่ ต้องกดเบรคกันตูดเกือบสไลท์กันทีเดียว มานึก อ่อนินจามีสลิปเปอร์ครัช ซึ่งผมเคยขี่ในตัว600และ1000มันไม่เป็นเช่นนี้ เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากการปรับให้บาลานซ์กับน้ำหนักมือครัช(สปริงกดครัชเบา) เลยทำให้สลิปเปอร์ครัชทำงานเร็วเกินไป ส่งผลให้เอ็นจินเบรคหาย ยังงัยๆใครใช้รุ่นนี้ตอนขี่ลงเขาระวังกันด้วยครับความเร็วสูงสุด ในสนามที่ขี่ได้ (ยังเหลืออีกเพียบ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น